This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

GRCห้องประชุม Online Grc สำหรับผู้สนใจ

ช่วงที่1 อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท แผนการตลาด วิธีการทำงาน ช่วงที่2 แชร์ประสบการณ์ ช่วงที่3 ถามตอบกันสดๆแบบออนไลน์ผ่านเน็ต .

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

GRCกำลังใจให้คุณ

เชื่อว่าคุณเคยแพ้ เชื่อว่าคุณเคยล้ม แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ล้มเหลว คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก.

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

GRC จุดอ่อนของคนไทย


คุณภาพของคน คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ

บทความตอนหนึ่งเกี่ยวกับมุม
มองของนักธุรกิจไทย และเป็นประธานกลุ่มอมตะนคร คือ คุณวิกรม กรมดิษฐ์ ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอุปนิสัย และระเบียบวินัยในการดำเนินชีวิตของคนไทย ซึ่งจะต้องได้รับการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจการค้าหรือเป็นพนักงานประจำ จะทำธุรกิจเครือข่ายขายตรง หรือทำธุรกิจออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ก็ตาม คิดว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็น่าจะใช้เป็นบรรทัดฐานในการปรับปรุงวิธีคิด วิธีการทำงาน ให้ดียิ่งๆขึ้นไปได้ โดยเฉพาะผู้ที่ทำ ธุรกิจเครือข่ายขายตรง หรือ MLM สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณภาพของคนซึ่งทำธุรกิจนั้นอยู่ ตลอดจนวินัยในการทำงาน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เราลองมาพิจารณาบทวิจารณ์ของ คุณวิกรม กรมดิษฐ์ เลยดีกว่า

จุดอ่อนของคนไทย 10 ประการ โดย วิกรม กรมดิษฐ์

1 . คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเอ
งต่ำมาก โดยเฉพาะ หน้าที่ต่อสังคม เป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดเป็น ธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติล้าหลังไปเรื่อยๆ

2. การศึกษายังไม่ทันสมัย คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอ
ง ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่างๆ ไม่กล้าแสดงออก ขี้อายไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า

3. มองอนาคตไม่เป็น คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคต ทำแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ น้อยคนนักที่จะทำงานแบบเป็น
ระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน

4. ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่
อหน้าที่ ทำแบบผักชีโรยหน้าหรือทำด้วยความเกรงใจ ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับสัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อยๆ

5. การกระจายความเจริญยังไม่เต็
มที่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกลจะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องส่งเสริม

6. การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็ง
และดำเนินการไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง

7. อิจฉาตาร้อน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุ
รุษ เลี่ยงเป็นศรีธนญชัยยกย่องคนมีอำนาจ มีเงิน โดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่า ผู้ก่อการร้าย ดีแต่พูด มือไม่พายยังเอาเท้ารานํ้า ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว

8. เอ็นจีโอค้านลูกเดียว เอ็นจีโอ บางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยช
น์ เอ็นจีโอดีๆก็มี แต่บ้านเรามีน้อย บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาลเพราะการค้านอย่างหัวชนฝา เหตุผลจริงๆ ไม่เอามาพูดกัน

9. ยังไม่พร้อมในเวทีโลก การสร้างความน่าเชื่อถือในเ
วทีการค้าระดับโลกของเรายังขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี ทำให้สู้ประเทศเล็กๆอย่างสิงคโปร์ไม่ได้

10. เลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบันเด็กไทยขาดความอดทน
ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเองขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม

และนี่ก็คือ จุดอ่อนของคนไทย ในมุมมองของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อ
เสียง ไม่มีประวัติด่างพร้อย มากด้วยประสบการณ์ เป็นนักธุรกิจหมื่นล้านที่ประสบความสำเร็จ และถ้าพวกเราได้นำคำแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้ มาแก้ไขให้เป็นจุดแข็ง คิดว่าพวกเราจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน การทำธุรกิจเครือข่ายขายตรง หรือ MLM นั้น เราจะต้องทำงานอย่างมีวินัย ทำอย่างต่อเนื่อง มีจุดมุ่งหมายอันมั่นคงแน่นอน ไม่ออกนอกลู่นอกทาง และที่สำคัญ เราต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ ตลอดจนหาเทคนิคใหม่ๆ มาใช้ในการทำตลาด เพื่อสร้างเครือข่ายให้เติบโต จนสามารถสร้างรายได้ให้เราอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยคุณภาพของคนล้วนๆ

หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้รับประโยชน์จากบทควา
มนี้ไม่มากก็น้อย ถ้ามีโอกาส จะนำบทความอันมีประโยชน์อื่นๆ มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาเรียนรู้กันต่อไปครับ..
..!!!

ที่มาทีมมังกรฟ้า >>> http://ramitatime.com

GRC ความสำเร็จ100%??


ถ้า

A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z

ค่าเท่ากับ

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

แล้วจะพบว่า......

1) H+A+R+D+W+O+R+K = 8+1+18+4+23+15+18+11 = 98%


HARD WORK หรือ ทำงานหนัก มีค่าเท่ากับ 98 %


2) K+N+O+W+L+E+D+G+E = 11+14+15+23+12+5+4+7+5 = 96%

KNOWLEDGE หรือ ความรู้ มีค่าเท่ากับ 96 %


3) L+O+V+E=12+15+22+5 = 54%

LOVE หรือ ความรัก มีค่าเท่ากับ 54 %


4) L+U+C+K = 12+21+3+11 = 47%

LUCK หรือ โชค มีค่าเท่ากับ 47 %


คำถาม : ไม่มีสิ่งใดที่มีค่า 100 % เลยหรือ !!! แล้วสิ่งใดที่มีค่าเท่ากับ 100 %

- ใช่เงินหรือเปล่า ?……… .... .....ไม่ใช่ !!!!!

- ความเป็นผู้นำหรือเปล่า ?………ไม่ใช่ !!!!!

คำถาม : แล้วอะไรล่ะ ?

.

.

.
คำตอบ. : A+T+T+I+T+U+D+E = 1+20+20+9+20+21+4+5 = 100%

ATTITUDE หรือ ทัศนคติ นั่นเอง ที่มีค่าเท่ากับ 100 %

ท่านคิดเช่นนั้นหรือไม่ ทุกปัญหามีทางออก . . บางทีแค่เพียงแต่เราเปลี่ยน "ทัศนคติ " ของเรา

เสียใหม่เท่านั้นเอง มีเพียงแต่ "ทัศนคติ" ของเราเท่านั้น ที่จะเป็นตัวนำทาง ไปสู่ความสำเร็จในชีวิต

และงานที่ทำ

....ความคิด & ทัศนคติ....และสุดท้าย .... การลงมือทำ

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

GRC 5ขั้นบันไดสู่ความสำเร็จ

หลาย ๆคน มักจะพร่ำสัญญากับตัวเองเสมอว่า ฉันจะเป็นคนใหม่
 ที่สดใส สำเร็จและเป็นสุข เอาหละค่ะ บางทีการตั้งเป้าเอาไว้
 แต่พอถึงเวลาจริง ๆ แล้ว
 ไม่ลงมือปฏิบัติการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง อะไร ๆ
มันก็ไม่ดีขึ้นจริงไหมคะ หรือถ้าหากว่าใคร
ไม่รู้จะเริ่มต้นลงมือกันอย่างไร
ก็ลองมาใช้วิธีการที่เรียกว่า บันได 5 ขั้น นี้ดูค่ะ


บันไดขั้นที่ 1
มองตัวเองว่าดีและมีคุณค่าทุกวัน โดยที่ตื่นนอนมา ก็จงยิ้มกับตัวเอง และบอกกับตัวเองว่า “เรานี่ช่างโชคดีจริง ๆ ” จากนั้น ก็นึกถึงคุณงามความดี หรือสิ่งดี ๆ ที่เราได้เคยทำเอาไว้ เช่น เมื่อวานช่วยพาคนแก่ข้ามถนน อย่างนี้เป็นต้น นอกจากนั้นให้อวยพรตัวเองเสมอ อย่าเอาแต่แช่งตัวเอง มองจุดดี และเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง
บันไดขั้นที่ 2
มองคนอื่นดี มองโลกในแง่ดี นอกจากจะมองตัวเองดีแล้ว ก็จงถ่อมตัว ถ่อมใจตัวเองด้วย โดยคิดว่า ทุก ๆ คนก็มีความสามารถทั้งนั้น ซึ่งอาจจะเด่น อาจจะเก่งในแง่มุม ในเรื่องที่แตกต่างกัน อย่างเช่นว่า มีโทรศัพท์มาก็ให้คิดว่าคนดี ๆ โทรมาบอกเรื่องดี ๆ คิดอย่างนี้เสมอจนกลายเป็นนิสัยของเราไปเลยจะยิ่งดี
บันไดขั้นที่ 3
วันนี้ให้ดีที่สุด นั่นคือให้เราอยู่กับปัจจุบัน ทำกิจกรรมในวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ให้ยอมรับเพราะว่าเราทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว และให้คิดต่อไปว่า ในอนาคตเราจะทำให้ดีกว่านี้อีก
บันไดขั้นที่ 4
มีความหวังและเชื่อว่าอนาคตจะดีเสมอ ถ้าเราเชื่อและบอกกับตัวเองเช่นนั้นเป็นประจำ กำลังใจก็จะเกิดจะมีพลังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตโดยไม่เกรงกลัว หัดเป็นคนมีความหวัง และมีอารมณ์ขันในชีวิตเสมอ
บันไดขั้นที่ 5
ปรับปรุงตัวเองเสมอ ทั้งในแง่ของการทำงาน ครอบครัว สังคม และตนเอง โดยในส่วนของการงานนั้น ก็ให้ขยัน อดทน หมั่นหาความรู้ใส่ตัวเสมอ ครอบครัวก็ต้องคิดในสิ่งที่ดีต่อกัน รู้จักให้อภัยกัน ไม่อิจฉา ระแวง แข่งขัน มีน้ำใจ และเกรงใจกัน ด้านสังคม ก็ให้หมั่นสร้างมิตรเสมอ ช่วยเหลือผู้อื่น ส่วนด้านของตนเองนั้น ก็ให้พัฒนาตนเองเพื่อลบปมด้อย ภูมิใจในตนเอง ตามความเป็นจริง อย่าผัดวันประกันพรุ่งนี้อีกเลย มาเริ่มไต่บันไดเพื่อไปสู่ชีวิตที่มีความสุขได้เลย
อาชีพอิสระ ทำที่บ้านหาแหล่งงานเสริมทำทางเน็ต งานพิเศษนักศึกษา
อาชีพอิสระที่คุณทำได้ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถทำได้ค่ะ สามารถทำได้ทุกที่ที่มีอินเตอร์เน็ตหรือรับกลับไป ทำที่บ้าน ได้ค่ะ เรามีการสอนงานให้ทุกขั้นตอน เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา บุคคลทั่วไป ที่ต้องการ งานเสริม รายได้เสริม แค่ใช้เวลาเล่นอินเตอร์เน็ต วันละ 2-3ชั่วโมง ใครๆก็ทำได้แหล่งงานเสริมทำทางเน็ตที่ได้รับความนิยมสูงสุดขณะนี้
ผู้ที่สนใจติดต่อ...ฟาริดา (0869774721)

GRC พ่อรวยสอนลูก(เงินสี่ด้าน)

โรเบิร์ต ที. คิโยซากิ ผู้แต่งหนังสือพ่อรวยสอนลูก เงินสี่ด้าน
 โรงเรียนสอนธุรกิจ ฯลฯ ได้ให้ข้อคิดไว้ในหนังสือที่เขาแต่งจำนวนมาก
เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย


  • ธุรกิจเครือข่ายเป็นเหมือนโรงเรียนสอนธุรกิจ ที่ทำให้คุณย้ายฝั่งจากฝั่งซ้ายไปอยู่ด้านขวา โดยที่มีความเป็นไปได้สูง ความเสี่ยงต่ำ
  • บริษัทเครือข่ายที่ดีจะต้อง สอนให้คุณเป็นนักธุรกิจ มีระบบพัฒนา เพื่อผลักดันให้คุณสำเร็จ ไม่ใช่สอนให้คุณเป็นเซลล์แมน ขายของรับรายได้ไปวันๆ
  • คนรวยที่สุดในโลก ล้วนสร้างเครือข่าย แสวงหาเครือข่าย ในขณะที่คนส่วนใหญ่เกือบ 95%หางานทำไปวันๆ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร หากคุณขาดการสร้างเครือข่าย คุณไม่มีทางจะสร้างรายได้จากการทำได้เลย
โรเบิร์ต แบ่งคนออกเป็น 4 กลุ่ม




E(Employee) ลูกจ้าง พนักงาน



  • ไม่มีงานเป็นของตนเองทำงานให้คนอื่น
  • ไม่มีความแน่นอน ไม่มีความมั่นคง
  • จะอยู่หรือไปขึ้นอยู่ที่นายจ้าง ผู้บังคับบัญชา
  • รายได้ไม่แน่นอน
  • ไม่สามารถโอนตำแหน่ง หน้าที่ให้รุ่นลูก หลานได้
S(Self-Employed) ธุรกิจส่วนตัว งานวิชาชีพ

  • เป็นเจ้าของงาน งานไม่มีระบบ
  • เชื่อมั่นในตัวเองสูง เพราะคิดว่าคนอื่นทำงานได้ไม่ดีเท่าตนเอง
  • รายได้ขึ้นอยู่กับงานที่ทำ
  • รายได้ไม่แน่นอน คาดการได้ยาก
  • หยุดทำ ปิดร้าน พักผ่อนไม่ได้เงิน
  • อายุเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะอายุมากขึ้นทำงานลำบาก เช่น หมอ พยาบาล
  • ไม่สามารถถ่ายโอนงานหรือธุรกิจได้ เพราะเป็นความสามารถเฉพาะตัว
B(Business Owner) เข้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ เจ้าของระบบ

  • ต้องใช้ประสบการณ์ เวลา เงินทุน
  • มีระบบที่แน่นนอน บริหารงานโดยมืออาชีพ
  • งานเดินได้ปกติถึงแม้เจ้าของกิจการไม่มาทำ
  • หยุด เที่ยว เจ็บป่วย งานยังเดินปกติ
  • รายได้ไม่มีจำกัด ทำงานเป็นระบบ
  • ถ่ายโอนธุรกิจ เป็นมรดกตกทอดได้
  • ตัวอย่างธุรกิจเช่น ซีพี สิงห์ ช้าง ธุรกิจเครือข่ายหรือMLM ก็จัดอยู่ด้วย
I(Investor) นักลงทุน

  • เจ้าของธุรกิจเมื่อมีเงินทุนจำนวนมากก็จะแสวงหาแหล่งที่ให้ผลตอบแทนสูง
  • ใช้เงินทำงาน เข้าไปลงทุนในกิจการต่างๆ
  • มีอิสระภาพ ทางการเงิน เวลา
  • ถ่ายโอนมรดกได้ 100%
  • รายได้ไร้ขีดจำกัด เปลี่ยนการลงทุนได้ตลอดเวลา
คุณล่ะครับตอนนี้อยู่ส่วนไหนของเงินสี่ด้าน?



GRC คุณ...ต้องการเลือกแบบไหน

 

 
GRCTHAI
รายได้ที่คุณต้องการเป็นแบบไหน

การสร้างรายได้ของเราโดยปกติทั่วไปก็มาจากการทำงานหรือประกอบอาชีพต่างๆ นั่นเองแหละครับซึ่งก็มีหลากหลายอาชีพให้เราเลือกตอนนี้
ผมยกตัวอย่างแบบรายได้ 5 แบบให้คุณได้ดูและวิเคราะห์กันนะครับ (ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่านี่ไม่ใช่บรรทัดฐาน หรือกฏเกณฑ์ เป็นไปตามความคิดของแต่ละบุคคล
หรือการเปรียบเทียบว่าอะไรดีหรือไม่ดี อะไรถูกหรือไม่ถูก แต่เป็นการจัดกลุ่มช่องทางการหารายได้ของคนเราตามทฤษฎี
คนขายตรงเท่านั้นครับ) คุณอาจจะมีแนวคิดที่ดีกว่าก็ได้ เพื่อใช้เป็นแรงกระตุ้นในการทำงาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของ
คนทำงานเครือข่าย และงานบนเน๊ต
รายได้แบบที่ 1 รายได้แบบรับครั้งเดียว
ได้แก่คนที่ทำงานรับจ้าง รับเหมางาน รายได้รับเป็นครั้งไม่แน่นอน รายได้จะขึ้นอยู่กับงาน ทำมากก็ได้มาก หรือ ชาวเกษตรกร ขึ้นอยู่กับเวลาและแรงที่ใช้ในการทำงาน เมื่อหยุดทำงานหรือเจ็บป่วยก็ไม่มีรายได้ ทำให้รายขาดหายไปในช่วงนั้นๆ
รายได้แบบที่ 2 รายได้แบบขั้นบันได
ได้แก่คนที่ทำงานประจำรับเงินเดือน รายได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงาน ยิ่งทำงานยิ่งนานรายได้จะเพิ่มขึ้นทุกปีต่อเนื่องสม่ำเสมอ ยิ่งทำงานนาน มีประสบการณ์มีรายได้เพิ่มขึ้นได้แก่ ลูกจ้างพนักงานบริษัท รัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ จะดีกว่าแบบที่1 ตรงที่เมื่อหยุดงานหรือเทศกาลวันหยุดยังมีรายได้ แต่เมื่อถูกเลิกจ้าง เกษียณ ลาออกรายได้ก็หยุดตามไปด้วย
รายได้แบบที่ 3 รายได้แบบถดถอย
เป็นลักษณะรายได้ที่เริ่มแรกจะมีรายได้สูงแต่เมื่อนานๆเข้าก็เริ่มถดถอยลงไป ได้แก่คนที่มีอาชีพเป็นนักกีฬา นักแสดงนักร้องรายได้ขึ้นอยู่กับชื่อเสียง รายได้จะค่อยๆน้อยลงๆ ตามเวลา แก่ตัว เลิกจ้าง หยุด ป่วย รายได้ก็จะหยุดตามไปด้วย ถ้าไม่มีอาชีพอื่นมาเพิ่มรายได้ก็ขาดหายไปเหมื่อนกับที่ได้รับข่าวจากทีวี หนังสือพิมพ์
รายได้แบบที่ 4 รายได้ขึ้นลงตามสถานการณ์มีรายได้ไม่แน่ไม่นอ
ได้แก่กลุ่มคนที่ทำธุรกิจขายของ ค้าหุ้น รายได้ไม่แน่นอน ขึ้นๆลง เลิกทำหยุด ป่วย กิจการไม่ดี รายได้ก็หยุดตามไปด้วย กลุ่มที่มีความเสี่ยงเมื่อได้มาแล้วก็ต้องรีบเก็บ บ้างคนรวยในช่วงข้ามคืน บ้างคนก็ล่มหายไปในพริบตา
รายได้แบบที่ 5 รายได้แบบทวีคูณ รายได้แบบนี้เกิดจากธุรกิจเครือข่าย
รายได้จะขึ้นอยู่กับจำนวนเวลาที่ทำงาน โดยจะเพิ่มจากจำนวนน้อยๆในช่วงแรกๆและทวีคูณขึ้นแม้ว่าเราอาจจะหยุดทำไปแล้วแต่รายได้ก็ยังคงหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดเพราะได้สร้างเครือข่ายไว้อย่างมั่นคงแล้วรายได้แบบนี้เป็นรายได้แบบที่คนเครือข่ายเข้าใจและนี่คือโอกาสอันดีครับ
สำหรับธุรกิจเครือข่าย ที่จะทำให้คุณ สามารถสร้างเครือข่าย สร้างรายได้ กับเรา อยู่ที่คุณ ครับว่าจะตัดสินใจเลือกรายได้แบบไหน? หากคุณเห็นว่ารายได้แบบทวีคูณจะสารถสร้างความมั่งคั่งและความร่ำรวยให้คุณได้